พี สะเดิด พูดถึงบั้งไฟพญานาค เชื่อปรากฏการณ์ธรรมชาตินี้มีจริง

พี สะเดิด พูดถึงบั้งไฟพญานาค เชื่อปรากฏการณ์ธรรมชาตินี้มีจริง

พี สะเดิด พูดถึงบั้งไฟพญานาค เชื่อปรากฏการณ์ธรรมชาตินี้มีจริง หลังเกิดดราม่าถกเถียงว่ามีคนยิงปืนขึ้นฟ้าจากฝั่งลาวรึเปล่า สำหรับกรณีที่มีคนพูดถึงและถกเถียงกันเป็นจำนวนมาก อย่างเรื่องของ บั้งไฟพญานาคที่พูดกันว่ามีคนยิงปืนขึ้นฟ้าในฝั่งลาว จึงได้มีการร้องสถานทูตลาวให้ตรวจสอบ จนทำให้เกิดกระแสวิจารณ์เกิดขึ้น และกระทบต่อความเชื่อของผู้คนที่ศรัทธาในเรื่องดังกล่าว ล่าสุด นักร้องชื่อดังอย่าง พี สะเดิด ได้ออกมาเล่ามุมมองของตนเองเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว โดยระบุว่า

“#พีสะเดิดพูดเรื่องบั้งไฟพญานาค …

ที่กำลังเป็นข่าวกันว่ามีคนยิงปืนขึ้นฟ้าทำให้คนเข้าใจผิด จริงเท็จแค่ไหนผมไม่รู้ข้อมูล แต่อยากพูดในฐานนะไปนั่งรอดูมาเกือบ20ปีแล้วครับ และได้เห็นความอัศจรรย์ที่ลูกไฟเหลือบสีชมพูอมส้มขึ้นจากน้ำทั้งไกล และ ใกล้ ระยะห่างจากที่นั่งไม่เกิน 3 เมตรก็เคยเจอ บอกเลยว่าไม่ใช่การยิงปืนขึ้นฟ้าหลอกคนแน่นอน แต่จะเกิดจากอะไรหลายคนพิสูจน์ไม่ได้

แต่ตามความเชื่อของคนแก่เล่าสู่กันฟังว่านั่นคือบั้งไฟที่พญานาคจุดบูชาพระพุทธเจ้าในวันออกพรรษา … ผู้เฒ่าเล่าให้ฟังดังนั้น จะเป็นสิ่งใดหากเราคิดดีทำดีมันก็คงจะมีแต่เรื่องดีๆครับ… #บั้งไฟพญานาค #แม่น้ำโขง #ไม่เชื่อว่าบั้งไฟเกิดจากการยิงปืนขึ้นฟ้าทั้งหมด #เชื่อว่าปรากฏการณ์ธรรมชาตินี้มีอยู่จริง #พีสะเดิด”

‘เอ็ม บุษราคัม’ ลูกสาว ‘หม่ำ จ๊กมก’ เปิด หน้าเก่า ในวัยเด็ก พร้อมเผยเหตุผลที่ตัดสินใจทำศัลยกรรม ลั่น ช่วยดูดั้งดิฉันด้วยค่ะ! หน้าเก่าเอ็มบุษราคัม – เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกคนถามอยู่บ่อย ๆ สำหรับเรื่องราวการศัลยกรรมของ ‘เอ็ม บุษราคัม วงษ์คำเหลา’ ลูกสาวของตลกชื่อดัง ‘หม่ำ จ๊กมก’ ที่ล่าสุด (26 ต.ค.) เจ้าตัวก็ได้มีการออกมาโพสต์ภาพผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว โดยเป็นภาพของเจ้าตัวในสมัยเด็ก พร้อมแนบแคปชั่นเผยเหตุผลที่ทำให้เจ้าตัวตัดสินใจทำศัลยกรรม ลั่น ช่วยดูดั้งดิฉันด้วยค่ะ! โดยระบุว่า

“คุณว่าเราศัลยกรรม คุณช่วยดูดั้งดิฉันด้วยเจ้าค่ะ ปีกบานจนจะถึงติ่งหูอยู่แล้วจ้าาาาา ชัคกี้ชัดๆเลยเนี่ย **สำหรับคนที่ถามว่าทำคางไหม ให้ภาพนี้เป็นคำตอบละกัน**”

ลิซ่า BLACKPINK กับเพลง LALISA พุ่งทะลุยอดวิว 300 ล้านครั้งแล้ว ขึ้นแท่นอันดับ 14 สำหรับวิดิโอที่มียอดวิวมากที่สุดของ BLACKPINK ต้องขอแสดงความยินดีกับเธออีกครั้งจริงๆ สำหรับ ลิซ่า BLACKPINK หรือ ลิซ่า ลลิษา มโนบาล ไอดอลเคป็อปสัญชาติไทยคนเก่งของเรา เพราะล่าสุดเพลงโซโล่เดี่ยวเพลงแรกของเธอ ได้มียอดวิวทะลุ 300 ล้านครั้งบนยูทูบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ชาวทวิตเตอร์พร้อมใจกันติดแฮชแท็ก #LALISA300M เพื่อร่วมแสดงความยินดีกับสาวลิซ่าและความสำเร็จอีกครั้งของเธอ จนตอนนี้แท็กนี้ได้ติดอันดับ 2 บนทวิตเตอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้เพลง LALISA ยังได้ขึ้นมาเป็นอันดับ 14 สำหรับวิดิโอที่มียอดวิวมากที่สุดของ BLACKPINK อีกด้วย

นักสังคมสงเคราะห์ ชี้ดราม่า หนึ่ง จักรวาล มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

เพจ นักสังคมสงเคราะห์ ชี้ดราม่า ‘หนึ่ง จักรวาล’ มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เผย ผู้ปกครองควรเคารพในขอบเขตสิทธิความเป็นส่วนตัวของเด็ก นักสังคมสงเคราะห์วิเคราะห์หนึ่งจักรวาล – จากกรณีข่าวของโปรดิวเซอร์เพลงชื่อดัง ‘หนึ่ง จักรวาล เสาธงยุติธรรม’ ที่ถูกสังคมโจมตีลักษณะการแสดงความรักต่อบูกสาวอย่างไม่เหมาะสม จน ‘#หนึ่งจักรวาล‘ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 โดยมีคนออกมาทวีตวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวกว่า 1.3 ล้านทวีต

ล่าสุด (26 ต.ค.) ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘นักสังคมสงเคราะห์เล่าเรื่อง‘ ก็ได้มีการออกมาโพสต์ข้อความวิเคราะห์ประเด็นดราม่าของโปรดิวเซอร์ดัง ชี้ ผู้ปกครองควรเคารพในขอบเขตสิทธิความเป็นส่วนตัวของเด็ก โดยระบุว่า

“กำลังเป็นกรณีดังในขณะนี้กับการที่นักดนตรีชื่อดังท่านหนึ่ง มีคลิปวีดีโอที่แสดงความรักต่อลูกสาวโดยการสัมผัสใกล้ชิดผ่านการจับหน้าอก บางคลิปมีการล้วงกางเกงเพื่อจับก้นลูกด้วย ในเบื้องต้นแอดมินขอยืนยันว่าเด็กจำเป็นและคู่ควรที่จะได้รับความรักผ่านการสัมผัส เช่น กอด หอม จากพ่อแม่ แต่การสัมผัสเหล่านั้นต้องสอดคล้องกับขอบเขตที่เหมาะสม และเป็นไปด้วยความเต็มใจของเด็ก (ขอบเขตที่ไม่เหมาะสม แม้เด็กเต็มใจก็เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้)

หลักสูตรและการเรียนรู้ที่สำคัญในการสอนเด็กให้สามารถระบุภัยทางเพศ คือการสอนให้เด็กรู้จักความรู้สึกที่ดี และความรู้สึกที่ไม่ดี ควบคู่ไปกับการรู้จักอวัยวะในร่างกายของตนเอง และขอบเขตทางร่างกายที่รู้สึกปลอดภัย และลำดับขั้นการอนุญาตที่เด็กจะมีให้คนแต่ละคนเข้ามาใกล้ หรือสัมผัสอวัยวะแต่ละส่วนของเขา

กฎเหล็กที่สำคัญคือ ในกรณีที่เด็กสามารถจัดการธุระของตนเองได้ เช่น ล้างฉี่ ล้างก้นได้แล้ว แม้แต่คนใกล้ตัวเด็กมากที่สุดอย่างพ่อแม่ ก็ไม่ควรหรือไม่มีสิทธิที่จะจับ สัมผัส อวัยวะปกปิด ซึ่งประกอบไปด้วย หน้าอก ก้น อวัยวะเพศของเด็กได้อย่างปกติ ยกเว้นในกรณีที่เด็กเจ็บป่วยหรือต้องอยู่ในสภาวะที่ต้องได้รับการดูแลเพียงเท่านั้น

เหตุที่เราจำเป็นต้องสอนเด็กเช่นนี้เพราะว่าถ้าเด็กถูกจับและสัมผัสอวัยวะปกปิดจนเป็นสิ่งปกติ เขาเองจะไม่เรียนรู้ขอบเขตที่เหมาะสมทางด้านร่างกายและเรียนรู้ความรู้สึกการเป็นเจ้าของเนื้อตัวร่างกายของเขาเอง ซึ่งจะนำไปสู่ความเสี่ยงที่จะถูกทารุณกรรมทางเพศจากผู้ใกล้ชิด และจากข้อมูลสถิติ ผู้ล่วงละเมิดทางเพศเด็กส่วนใหญ่คือบุคคลใกล้ชิดที่เด็กไว้วางใจ แอดมินเจอมาแล้วค่ะ พ่อแท้ ๆ ปู่แท้ ๆ น้า อา แท้ ๆ มีหมด

เวลาสอนเด็กเราจึงบอกเสมอว่าถ้ามีใครมาจับ ก้น นม จิ๋ม หรือ จู๋ (เด็กในบางพื้นที่ก็เรียกว่าหี ควย ดอ เป็ด ก็มีค่ะ) ให้มาบอกพ่อแม่ หรือถ้าพ่อแม่จับก็ให้มาบอกคุณครู เพื่อที่เราจะได้ทำงานกับครอบครัวเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงต่อว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าพ่อแม่ยังไม่เข้าใจเราจำเป็นต้องให้พ่อแม่เข้าใจความจำเป็นในเรื่องนี้

Credit : เว็บสล็อต